ดาวน์โหลดเอกสาร () จาก 20

เคล็ดลับ 6 ข้อสำหรับรักษาสภาพแบตเตอรี่สำรองของ UPS ให้ดีที่สุด

การรับรองถึงประสิทธิภาพที่เหมาะสมของแบตเตอรี่สำรอง UPS หรือที่เรียกว่าเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) นั้นไม่ได้กินเวลามากอย่างที่คุณคิด และยังเป็นขั้นตอนสำคัญในการหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่เครื่องหยุดทำงานโดยไม่คาดคิด UPS ของคุณควรได้รับการตรวจสอบทุกปีเพื่อระบุหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เคล็ดลับ 6 ข้อต่อไปนี้จะช่วยให้คุณรักษาสภาพ UPS ให้ดีที่สุดได้

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ UPS ยังไม่เสื่อมคุณภาพ

แบตเตอรี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ UPS ขัดข้อง ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบเพื่อบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างน้อยปีละครั้ง นอกจากนั้นยังควรเลือกแผนสนับสนุนที่มีบริการเฝ้าติดตามจากระยะไกล ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาช่วงเวลาเครื่องไม่ทำงาน หากเลือกที่จะบำรุงรักษาเครื่องด้วยตัวเอง อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพแบตเตอรี่ในเชิงรุกเป็นประจำ

สำหรับ UPS รุ่นเล็ก คุณควรจดบันทึกอายุการใช้งานและวางแผนเปลี่ยนใหม่เมื่อเครื่องมีอายุ 4 ปีหรือมากกว่า นอกจากนั้นยังควรใช้ฟังก์ชั่นการทดสอบตัวเองของแบตเตอรี่ UPS และถอดแผงด้านหน้าออกเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนใดบวมหรือเสียหาย

ทำความรู้จักกับแบตเตอรี่ UPS ของคุณ

2. ทำความสะอาดพื้นที่ไอที

สิ่งของที่วางเกะกะ ฝุ่น และความไม่เรียบร้อยต่างๆ อาจนำไปสู่ปัญหาที่คุณไม่ต้องการ และอาจลดความน่าเชื่อถือของแบตเตอรี่สำรอง UPS ความร้อนจะลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลงไปอย่างมาก ดังนั้นสภาพแวดล้อมไอทีของคุณจึงควรมีอากาศไหลเวียนอยู่เสมอ ตรวจสอบการเชื่อมต่อไฟฟ้าและอย่าลืมปัดฝุ่น เพราะสิ่งสกปรกที่เกาะหนาอาจทำให้พัดลมและแผงไฟฟ้าเสียหาย โดยส่วนใหญ่นั้น เพียงเช็ดทำความสะอาดก็เพียงพอแล้ว

3. ตรวจสอบการสื่อสาร UPS

การสื่อสาร UPS ที่ตั้งค่าอย่างเหมาะสมช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้จัดการฝ่ายไอทีจะตอบสนองต่อการแจ้งเตือนและดำเนินการแก้ไขได้ หาก UPS ของคุณมีการ์ดเครือข่ายอย่าง Gigabit Network Card ให้ ใช้อีเมลทดสอบ เพราะการเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์หรือโดเมนอีเมลอาจทำให้การตั้งค่าล้าสมัยได้ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบซอฟต์แวร์ให้แน่ใจว่าทั้ง UPS และการ์ดเครือข่ายมีเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุดอยู่

 

4. ตรวจสอบข้อมูลและบันทึกการรับบริการให้เป็นปัจจุบัน

ไม่มีอะไรจะน่าหงุดหงิดไปกว่าการได้รู้ว่า UPS ของคุณหมดช่วงรับประกันไปแล้ว หลังจากที่เกิดปัญหา ตรวจสอบขอบเขตสัญญาการให้บริการของคุณ และเก็บข้อมูลสัญญาทั้งหมดไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะในรูปแบบเอกสารหรือทางอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่มีสัญญาการให้บริการ โปรดตรวจสอบว่าคุณได้ลงทะเบียน UPS กับผู้ผลิตไว้แล้ว เพื่อรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดและเพื่อให้ผู้ผลิตตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหากเกิดปัญหาใดๆ

ลงทะเบียนเครื่องสำรองไฟ Eaton ของคุณ

5. เก็บข้อมูลการให้บริการในที่ที่หาเจอได้ง่าย

ค้นหาหมายเลขการให้บริการ UPS และแบตเตอรี่ของคุณที่ได้รับการอนุญาตจากโรงงาน แล้วเก็บไว้ในไฟล์ที่คุณจะหาพบได้อย่างรวดเร็ว คู่มือสำหรับผู้ควบคุมก็ควรจัดเก็บในตำแหน่งที่ปลอดภัยเพื่อให้นำมาอ้างอิงได้ง่าย 

ติดต่อ Eaton UPS Services ได้ที่ (098) 265-3800

6. ประเมินระดับการปกป้องกำลังไฟอีกครั้ง

อุปกรณ์และความต้องการด้านกำลังไฟของคุณอาจเปลี่ยนไปจากช่วงแรกที่ติดตั้ง UPS ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้ทำงานเกินขอบเขตจึงเป็นเรื่องสำคัญ ประสิทธิภาพด้านพลังงานและระดับการปรับขยายที่สูงขึ้นทำให้เกิดโซลูชัน UPS แบบโมดูลาร์ในรูปแบบใหม่ๆ มากมาย ซึ่งสามารถปรับขยายตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคุณได้ ลองเข้าร่วมกลุ่มการเสวนาระดับมืออาชีพหรือติดต่อผู้ผลิต UPS ของคุณเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม