ฉันจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ภายนอกหรือไม่ UPS แบบติดตั้งกับตู้แร็คทั่วไปจะทำงานโดยใช้แบตเตอรี่เป็นเวลา 5-10 นาทีที่โหลดปกติ (50-75%) ซึ่งทำให้มีเวลาเพียงพอที่จะทำงานภายใต้เหตุไฟฟ้าดับ 95% จนผ่านพ้นได้อย่างปลอดภัย แต่อีก 5% ของเหตุไฟฟ้าดับก็ทำให้เกิดสถานการณ์ที่น่ากังวล นั่นคือการสูญเสียข้อมูล ความเสียหายของข้อมูล และค่าใช้จ่ายในการกู้คืนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ส่วนโหลดอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มเต้ารับที่สามารถเปิดหรือปิดได้อย่างอิสระโดยใช้วิธีการแบบแมนนวลหรือการตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า อุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น จอภาพ อุปกรณ์สำรองข้อมูล และเครื่องมืออื่นๆ ที่ไม่สำคัญ อาจกินรันไทม์อันมีค่าของแบตเตอรี่ได้แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นก็ตาม การควบคุมระดับของเต้ารับผ่านการแบ่งส่วนโหลดช่วยให้สามารถปิดการทำงานของโหลดบางโหลดเพื่อยืดรันไทม์ของแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์สำคัญที่เหลือได้ ซึ่งเป็นการลดความจำเป็นที่ต้องใช้ EBM
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในกรณีที่ไฟฟ้าดับ โหลดที่ไม่จำเป็นจะเสียบเข้ากับส่วนโหลดที่แตกต่างจากโหลดที่จำเป็น หลังจากที่ UPS เริ่มใช้แบตเตอรี่ไม่นาน อุปกรณ์ต่อพ่วงจะถูกตัดไฟเนื่องจากส่วนโหลดปิดระบบลง ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ทั้งที่สำคัญและไม่สำคัญยังคงทำงานต่อไป จากนั้น หลังเวลาผ่านไปตามที่ผู้ใช้กำหนด ซอฟต์แวร์การจัดการพลังงานของ UPS จะเริ่มปิดเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่สำคัญแบบ Graceful Shutdown เพื่อขยายเวลารันไทม์ให้กับอุปกรณ์ที่สำคัญเพิ่มขึ้นไปอีก และสุดท้าย เมื่อ UPS ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาการสำรองแบตเตอรี่ที่มี เซิร์ฟเวอร์ที่สำคัญก็จะปิดระบบได้อย่างปลอดภัย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือก UPS เซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของคุณ
สำหรับโซลูชัน UPS ของ Eaton ที่ไม่มีการ์ดเครือข่าย Intelligent Power Protector จะติดตั้งอยู่บนเวิร์กสเตชันหรือเซิร์ฟเวอร์หลัก (เซิร์ฟเวอร์ 1) ที่เชื่อมต่อกับ UPS ผ่านทางอินเตอร์เฟซแบบอนุกรมหรือ USB กำหนดการปิดเซิร์ฟเวอร์จะได้รับการจัดการในระบบบนเซิร์ฟเวอร์ภายในแอปพลิเคชัน Intelligent Power Protector
การปิดระบบตามกำหนดเวลาสำหรับไคลเอนต์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อเครือข่ายจะพร้อมให้ใช้งานโดยการติดตั้ง Intelligent Power Protector เวอร์ชันไคลเอนต์ ไคลเอนต์จะตรวจหาข้อความขาออกใดๆ เกี่ยวกับการปิดระบบจากตัวควบคุม (เซิร์ฟเวอร์ 1) โดยฟังก์ชันนี้จะช่วยให้สามารถปิดการทำงานของอุปกรณ์หลายรายการได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดเครือข่าย
สามารถควบคุมส่วนโหลดได้แบบแมนนวล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการใช้งานระยะไกลที่มีเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ตอบสนองบนเครือข่าย แทนที่จะเดินเข้าไปในตู้ควบคุมระบบไอที ผู้จัดการฝ่ายไอทีสามารถล็อกอินเข้าสู่ UPS ได้ง่ายๆ ผ่านทางการ์ดเครือข่ายจากที่ใดก็ได้ตราบที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย แล้วเปิดวงจรไฟฟ้าให้กับส่วนโหลดที่เกี่ยวข้องกับเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นปัญหา
การรีสตาร์ทแบบหน่วงเวลาคืออีกหนึ่งบริการที่ส่วนโหลดทำให้ได้เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดหลังการ Graceful Shutdown UPS ที่มีความจุโหลดใกล้เต็มในระหว่างการทำงานปกติอาจเสี่ยงต่อการโอเวอร์โหลดเมื่อเซิร์ฟเวอร์ถูกเปิดจากเหตุไฟกระชาก แทนที่จะเปิดอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมกัน การแบ่งส่วนโหลดจะช่วยให้กลุ่มอุปกรณ์ต่างๆ ค่อยๆ ทยอยกลับมาทำงานตามเวลาหน่วงที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหลังไฟฟ้ากลับมา เป็นการช่วยลดโอกาสที่ UPS จะโอเวอร์โหลดเมื่อโหลดที่กำหนดใกล้กับความจุของ UPS ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบ