ข้อควรพิจารณาที่สำคัญเมื่อซื้อและติดตั้ง UPS

1) ติดต่อช่างไฟฟ้า

UPS แบบใดก็ตามที่จำเป็นต้องเดินสายควรติดตั้งโดยช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาต โดยเฉพาะช่างที่คุ้นเคยกับรุ่นที่ต้องติดตั้งเป็นอย่างดี แม้ UPS รุ่นที่เชื่อมต่อแล้วใช้งานได้เลยซึ่งมีขนาดเล็กจะช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งเองได้ แต่ในกรณีเช่นนี้การให้ใครสักคนช่วยดูอีกครั้งก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม

3) ตระหนักถึงสภาพแวดล้อม

การพิจารณาถึงตำแหน่งและสภาพแวดล้อมที่จะติดตั้ง UPS อย่างรอบคอบเป็นเรื่องสำคัญ และคุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจกลายเป็นการกระตุ้นอย่างความร้อน ความชื้น และฝุ่นเสมอ

• การไหลเวียนอากาศที่เหมาะสมก็มีความสำคัญ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ช่องลม UPS ถูกปิดกั้นจึงจำเป็นอย่างมาก
• อย่าลืมว่าอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสมของ UPS ซึ่งใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรดจะอยู่ที่ 25˚C / 77˚F และเพื่อไม่ให้ UPS มีความร้อนสูงเกินไป ห้ามวางในพื้นที่ที่โดนแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นอันขาด
• การได้รับการแจ้งเตือนขั้นสูงเกี่ยวกับปัญหาที่รอดำเนินการอย่างเช่นอุปกรณ์ที่มีความร้อนสูงเกินไป อาจกลายเป็นความแตกต่างระหว่างการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงทีและหายนะใหญ่หลวง Eaton Environmental Probe (EMP) จะเก็บรวบรวมค่าอุณหภูมิและความชื้นที่อ่านได้ในตู้แร็ค เพื่อให้คุณเฝ้าติดตามข้อมูลสภาพแวดล้อมได้จากระยะไกลโดยใช้เว็บเบราว์เซอร์มาตรฐาน

4. จำกัดการเข้าถึง UPS

หากคุณคิดว่าแค่การติดตั้ง UPS ไว้ในตำแหน่งที่ไม่เกะกะก็ปลอดภัยแล้ว เราขอแนะนำว่าอย่าด่วนสรุปและปล่อยให้เป็นเรื่องของโชค ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม หรือพนักงานทำความสะอาดที่เสียบปลั๊กเครื่องดูดฝุ่น อุบัติการณ์เหล่านี้และอุบัติการณ์อื่นๆ ก็สามารถทำให้ UPS เกิดภาวะโอเวอร์โหลดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการติดตั้ง UPS ให้มีความปลอดภัยและการป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นเรื่องสำคัญ 

สำหรับ UPS รุ่นเล็ก คุณสามารถใช้ตู้ติดผนังเพื่อให้ติดตั้งได้อย่างปลอดภัย เช่น MiniRaQ by Eaton ซึ่งกินพื้นที่น้อยกว่าโซลูชันคู่แข่งถึง 50% 

6) แบตเตอรี่เองก็ต้องการการเอาใจใส่

แบตเตอรี่คือหัวใจของระบบ UPS ทุกระบบ แต่ก็เป็นส่วนที่เปราะบางที่สุดเช่นกัน แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบมีวาล์วระบายแรงดัน (VRLA) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ UPS ขัดข้องและสูญเสียโหลดนั้น จำเป็นจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 3-5 ปีโดยเฉลี่ย การรู้วิธีเก็บรักษาและจัดการแบตเตอรี่คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่อายุการใช้งานที่ยาวนาน

แผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้ผลและคุ้มค่าที่สุดในการรักษาคุณภาพของแบตเตอรี่ UPS การรับบริการตามกำหนดการเป็นประจำจะช่วยให้ช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วตรวจสอบ ทดสอบ ปรับเทียบ และปรับปรุงส่วนประกอบของแบตเตอรี่ได้ เพื่อให้ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานเป็นไปตามมาตรฐานโรงงาน 

7) หันมามองแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

แม้แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบมีวาล์วระบายแรงดัน (VRLA) จะเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับ UPS มานาน แต่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งใช้งานได้นานกว่า 2-3 เท่า ชาร์จไฟได้เร็วกว่า 3 เท่า และเบาลงถึง 40% ก็พร้อมจะกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับใช้ในด้านไอที UPS ประเภทลิเธียมไอออนอย่าง เครื่องสำรองไฟ Eaton รุ่น 5P นั้นช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงตลอดวงจรชีวิตของ UPS อีกด้วย 

8) ลงทุนกับการ์ดเครือข่าย

การ์ดการจัดการเครือข่าย UPS สามารถช่วยปรับปรุงความต่อเนื่องทางธุรกิจโดยให้คำเตือนเกี่ยวกับปัญหาที่รอดำเนินการ และช่วยในการปิดระบบของเซิร์ฟเวอร์และที่เก็บข้อมูลตามลำดับ การใช้การ์ดเครือข่ายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการ UPS เครื่องเดียว การ์ดเครือข่ายของ Eaton ถือเป็นเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง จึงสามารถบันทึกประวัติเหตุการณ์ ส่งอีเมลกับข้อความแจ้งเตือน และให้การเข้าถึงสถานะแบบเรียลไทม์จากระยะไกลได้

Eaton Gigabit Network Card ที่เร็วขึ้นและมีความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น เป็นการ์ดเครือข่ายชิ้นแรกที่ได้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จาก UL และ IEC จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อกับ Gigabit Ethernet และเฝ้าติดตาม UPS ได้ ด้วยอินเทอร์เฟซเว็บเบราว์เซอร์ HTTPS โปรโตคอล SNMP v1/v3 และการแจ้งเตือนทางอีเมล

ดูประโยชน์ของการ์ดเครือข่าย UPS ได้ที่รีวิวจาก StorageReview.com